วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บลายธ์ ลูมิ บาบี้ 3 ตุ๊กตายอดนิยมแห่งยุค

สำหรับใครที่ว่างๆไม่มีอะไรทำน่ะค่ะ สามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการเล่นตุ๊กตาได้ค่ะ เราก็มีตุ๊กตามาแนะนำที่ยอดนิยมแห่งยุคค่ะ
1.บลายธ์ กำเนิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1972 จากโรง Kenner สหรัฐอเมริกา ในตอนแรกได้จัดทำตุ๊กตาออกมาถึง 4 แบบคือ Blythe, Karess, Willow และ Skye ต่อมาทางโรงงานก็ได้จ้างดีไซน์เนอร์มาช่วยออกแบบให้ ซึ่งทำให้ตุ๊กตาสามารถเปลี่ยนสีลูกตาได้ แถมมีเครื่องแต่งกายมากมายที่สลับสับเปลี่ยนกันแทบไม่รู้จบ อย่างไรก็ตาม แต่แทนที่จะไปได้สวยกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะหน้าตาและสีสันของมันทำให้เด็กกลัวมาก จนต้องหยุดผลิตทั้งที่เปิดตัวได้เพียงแค่ปีเดียว ไม่นานนักก็เลิกใจการไปถึง 30 กว่าปีหลังจาก 30 ปีผ่านไป ตุ๊กตาไบลทธ์ก็กลับมาอีกครั้ง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการที่ Gina Garan โปรดิวเซอร์สาวชาวอเมริกาได้รับมอบตุ๊กตาจากเพื่อน และเธอก็พาไบลทธ์ไปกับเธอแทบทุกที่ทั่วโลก และถ่ายภาพจากกล้อง SLR โดยมี Blythe เป็นนางแบบ ภาพของเธอถูกนำมารวมเป็นหนังสือชื่อ This is Blythe และ Finecracker Altemative Book ผลก็คือ Gina Garan โด่งดังและนำพาให้ตุ๊กตาไบลทธ์ก็กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และเมื่อบริษัท Tokoro ของประเทศญี่ปุ่นได้ลิขสิทธิ์ผลิตตุ๊กตา จึงทำการประชาสัมพันธ์จนทำให้ไบลทธ์เป็นที่รู้จักมากมาย ด้วยการยกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และทำให้มีส่วนร่วมกับวงการแฟชั่นด้วยการหาแบรนด์เนมต่างๆ มาสนับสนุนทำให้วันนี้ไบลทธ์ กลายมาเป็นตุ๊กตาที่มีราคาขึ้นมาทันที ปัจจุบันราคาอยู่ที่หลักหลักพันจนไปถึงหมื่นบาทขึ้น

2. ลูมิ Lumi doll เป็นตุ๊กตาอีกรุ่นของ Ball Jointed Dolls หรือตุ๊กตาแบบที่มีข้อต่อที่ขยับได้หลายท่า เป็นตุ๊กตาสัญชาติเกาหลี ผลิตโดยบริษัท Latidoll อาจแตกต่างจากตุ๊กตาทั่วไปตรงที่ไม่ได้ทำมาจากพลาสติก แต่ทำจากวัสดุโพลียูรีเทน (Polyurethane) ซึ่งมีความทนทาน ความยืดหยุ่น เนื้อของตุ๊กตาจะคล้ายๆ กับเรซิ่นเกรดดี มีความเงางามในตัว แลดูเสมือนคนจริงๆ ที่สำคัญใช้แรงงานคนในการผลิต เพราะมีข้อต่อเยอะ อีกทั้งยังต้องขัดแต่งส่วนประกอบต่างๆให้สมบูรณ์ ก่อนจัดส่งให้ลูกค้า ทำให้ต้องใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆ ค่อนข้างมาก ดังนั้น Lumi doll จึงมีราคาแพงกว่าตุ๊กตาปกติทั่วไป เนื่องจากเป็นงานแฮนด์เมดLumi doll มีให้เลือกหลายรุ่น หลายแบบ หลายสไตล์ มีลักษณะเป็นตุ๊กตาแก้มป่อง ตากลมโต รูปร่างสมส่วน สีหน้าและแววตาแสดงความรู้สึกบ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี สามารถตกแต่งได้ทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ใบหน้า วิกผม รองเท้า และมีเครื่องประดับมากมายให้แต่งตัวตุ๊กตากันได้ไม่เบื่อ เช่น ถุงน่อง รองเท้า หมวก ก็ปรับเปลี่ยนตามแต่ใจเราต้องการ ที่สำคัญสามารถเปลี่ยนสีตาได้มากกว่า 1 สี ทั้งนี้ Lumi doll ยังมีฝาแฝดอีกหนึ่งตัวคือ Lami Doll โดย Lami และ Lumi มีความแตกต่างกันที่ Lami จะดูออกแนวเข้มแข็ง เป็นสาวสปอร์ตเกิร์ล ชอบออกกำลังกาย ดูเป็นสาวร่าเริงสดใจ มีเพื่อนเยอะ ในขณะที่ Lumi จะดูบุคลิกเป็นเด็กเงียบๆ เรียบร้อย หน้าตาอ่อนโยน รักสันโดษ ชอบของสวยงาม ออกแนวคุณหนู มีความสามารถทางด้านศิลปะ ชอบสะสมเครื่องประดับ เครื่องสำอาง และของสวยๆ งามๆ

3. บาบี้ กำเนิดอย่างเป็นทางการในปี 1959 ในงานอเมริกันทอย แฟร์ หลังจากมีการก่อตั้งบริษัท แมตเทล ในปี 1944 โดยเอลเลียด แฮนด์เลอร์ และ ฮาโรลด์ แมคสัน ซึ่งภายหลังแมคสันขายเลอร์หุ้นส่วนหนึ่งของตัวเองให้แฮนด์เลอร์ ทำให้แฮนด์เลอร์กับภรรยาของเขาเข้ามาทำธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว ในงานของเล่นที่นิวยอร์ก เมื่อปี 1959 แมตเทลจึงออกผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "บาร์บี้" เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตุ๊กตานางแบบวัยรุ่นที่สวมชุดว่ายน้ำลายขาวดำ พร้อมกับแว่นกันแดดสุดเปรี้ยว รองเท้าส้นสูง ตุ้มหูห่วงสีทอง และผมหางม้าสูง 29 เซนติเมตร หนัก 11 ออนซ์ โดยชื่อบาร์บี้นั้นมาจากชื่อลูกสาวของแฮนด์เลอร์ต่อมาตุ๊กตาบาร์บี้ได้รับความนิยมอย่างสูง จึงทำให้มีสร้างเป็นเรื่องราวออกมาว่าบาร์บี้เกิดที่ เมืองวิลโลว์ ที่วิสคอนชิน มีชื่อจริงว่า บาร์นี้ มิลลิเซ็นต์ โรเบิร์ดส์ เป็นบุตรสาวของ มาการ์เร็ด โรเบิร์ดส์ กับ โรเบิร์ด โรเบิร์ดส์ โดยมีน้องสาว ชื่อว่า สกิปเปอร์ ทูตติสเคซี และเคลลี พร้อมเพื่อนสนิทอย่างมิดจ์ บาร์บี้ได้เข้าเรียนในระดับไฮสคูลที่โรงเรียนวิลโลว์ ในเมืองวิลโลว์ รัฐวิสคอนชิน และเริ่มออกเดทกับเคนในปี 1961 ทั้งสองเป็นคู่รักที่สวีทกันมาตลอดว่า 40 ปี แต่แล้วความเปลี่ยนแปลงก็มาถึง กระแสของการแสวงหารักใหม่เข้ามามีบทบาทเหมือนคนจริงๆ เพราะสาวบาร์บี้แอบมีกิ๊กจนเลิกกับเคนในปี 2005 หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตสาวโสดอย่างสนุกสนามตามเทรนด์แฟชั่นที่เข้ามาในแต่ละปีการผลิตเสื้อผ้าให้ตุ๊กตาบาร์บี้นั้นมีแบบต่างๆ ให้เลือกมากกว่า 500 แบบ จำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ มียอดจำหน่ายมากกว่า 1 พันล้านตัว ราคาบาร์บี้สำหรับเด็กประมาณตัวละ 400-500 บาท หากเป็นรุ่นสะสม ก็จะมีราคา 1,100 บาทขึ้น แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าหายาก ก็จะมีราคาตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทขึ้นไปครับ

2 ความคิดเห็น: